รถคันนั้นที่มารับตรงเวลา และใจดีเสมอ

เมื่อผู้สูงวัยเปิดใจให้แอปฯ เรียกรถ

รถคันนั้นที่มารับตรงเวลา และใจดีเสมอ
Photo by Wolf Schram / Unsplash

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ
ไม่ใช่แค่ในเชิงประชากร แต่ในเชิงพฤติกรรมด้วย
ภาพคุณยายใช้มือถือกดเรียกรถผ่านแอป ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่อีกต่อไป
แต่เบื้องหลังรอยยิ้มในรถแกร็บหรือบีไลน์ที่แล่นเข้าสู่ซอยเล็ก ๆ
กลับเต็มไปด้วยเงื่อนไขของการ “เลือกใช้” และ “ภักดี” ต่อแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง

งานวิจัยฉบับนี้พาเราเข้าไปสำรวจความซับซ้อนที่ซ่อนอยู่
เบื้องหลังพฤติกรรมของผู้สูงวัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวน 408 คน
ว่าพวกเขาเลือกใช้แอปเรียกรถเพราะอะไร?
อะไรที่ทำให้พึงพอใจ และอะไรที่ทำให้ ‘อยากกลับมาใช้ซ้ำ’

คำตอบของคำถามเหล่านั้น… มีทั้งเรื่องเทคโนโลยี ความรู้สึก และสังคมรอบตัว


เรียบง่าย ใช้ได้จริง = พึงพอใจ

“เข้าใจง่าย ไม่ต้องกดหลายขั้นตอน” คือคำตอบที่ผู้สูงวัยจำนวนมากพูดถึง
เพราะไม่ใช่ทุกคนจะพร้อมเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ได้เร็วเหมือนคนรุ่นลูกหลาน
สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกดี คืออินเทอร์เฟซที่ชัดเจน ตัวอักษรใหญ่ สีสบายตา และไม่มีขั้นตอนซับซ้อน

แต่สิ่งที่ส่งผลต่อ “ความพึงพอใจ” มากที่สุด ไม่ใช่แค่หน้าจอ
แต่คือการที่แอปฯ นั้น ให้ประโยชน์ที่จับต้องได้จริง
เช่น แจ้งราคาชัดเจนล่วงหน้า, มีตัวเลือกการชำระเงินหลายแบบ,
และเรียกรถจากบ้านได้โดยไม่ต้องออกไปยืนริมถนน

ไม่ใช่แค่แอปดี แต่ต้อง ‘ดีในแบบที่เข้าใจพวกเขา’


พฤติกรรมเรียกรถ = พฤติกรรมทางสังคม

คนสูงวัยอาจไม่ได้อยู่ในกลุ่ม Tech-savvy
แต่พวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกของเทคโนโลยี

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้พวกเขากล้าเปิดใจต่อแอปเรียกรถคือ
คำแนะนำจากคนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นลูกหลาน เพื่อนบ้าน หรือคนในกลุ่มไลน์
เมื่อคนรอบข้างใช้อยู่เป็นประจำ พร้อมบอกว่า "ใช้ง่ายนะ ลองดูสิ"
ความมั่นใจจึงค่อย ๆ ก่อตัว

และเมื่อใช้จริงแล้วเจอประสบการณ์ดี เช่น คนขับใจดี รถสะอาด ตรงเวลา
ก็กลายเป็น “แฟนพันธุ์แท้” ที่บอกต่ออย่างเต็มใจ


ความภักดี ไม่ใช่แค่ใช้ซ้ำ แต่คือความรู้สึกเป็นเจ้าของ

ความภักดีของผู้สูงวัย ไม่ได้เกิดจากคะแนนสะสมหรือโปรโมชั่น
แต่เกิดจากความรู้สึกว่า “แอปนี้เข้าใจฉัน”

เช่น มีฟีเจอร์เฉพาะทางอย่าง Grab Assist หรือ BeDriver ที่ดูแลผู้สูงวัย
หรือแม้แต่การมีคนขับที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี และสามารถช่วยเปิดประตู พูดจาเป็นมิตร
สิ่งเหล่านี้สร้างความมั่นใจ และความรู้สึกปลอดภัย

เพราะเมื่อรู้สึกปลอดภัย = รู้สึกสบายใจ
และเมื่อรู้สึกสบายใจ = ก็อยากกลับมาใช้อีก…และอีก


โอกาสของแอปฯ ในตลาดที่ใหญ่ขึ้นทุกวัน

จากงานวิจัยนี้ พบว่า คนวัย 55 – 60 ปี มีแนวโน้มจะกลับมาใช้แอปฯ เรียกรถอย่างต่อเนื่องมากกว่ากลุ่มอายุ 66 – 70 ปี
แสดงให้เห็นว่าผู้สูงวัยยุคใหม่กำลังปรับตัว และพร้อมเรียนรู้มากขึ้น

ข้อเสนอแนะสำหรับผู้พัฒนาแอปฯ มีหลายประการ เช่น

  • เพิ่มโหมดสำหรับผู้สูงวัย (ตัวอักษรใหญ่ ตัดฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น)
  • มีคู่มือทดลองใช้งานจริงทีละขั้น
  • อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตร ชัดเจน ไม่ซับซ้อน
  • รองรับการแชร์พิกัดจากแอปอื่น เช่น Google Maps

ด้านภาคธุรกิจ ก็ควรคิดถึงแคมเปญ “บอกต่อ” หรือสร้างความร่วมมือกับโรงพยาบาล
เพื่อเข้าถึงผู้สูงวัยอย่างตรงจุดและมีคุณค่า


สรุปสุดท้ายที่ไม่ควรมองข้าม

ในวันที่เทคโนโลยีแทบจะเป็นเงาของชีวิต
การที่คนคนหนึ่ง—โดยเฉพาะในวัยที่เคยรู้สึกว่าตัวเอง “ไม่ทันเทคโนโลยี”—
กล้าที่จะใช้แอปเรียกรถ คือเรื่องใหญ่

เพราะมันไม่ใช่แค่ “การเรียกรถ”
แต่มันคือ “การเชื่อใจ” ทั้งตัวแอป คนขับ และระบบทั้งหมด

หากธุรกิจใดให้ความเข้าใจ ไม่ใช่แค่ “เข้าถึง”
ผู้สูงวัยจำนวนมาก…จะกลายเป็นลูกค้ากลุ่มสำคัญที่ไม่เคยทิ้งคุณไปไหนเลย

Read more

เรียนรู้ Soft Skill อะไร จากซีรีส์ดัง "สงครามส่งด่วน"?

เรียนรู้ Soft Skill อะไร จากซีรีส์ดัง "สงครามส่งด่วน"?

content นี้ พูดถึง ตัวละครหลัก กับการทำงาน จะพยามชี้ให้เห็น Soft Skill ที่เด่นๆ บทเรียนที่สำคัญ ทั้งจุดแข็งและจุดที่ควรเรียนรู้ เพื่อให้นักศึกษาจะได้เอาไปปรับใช้ พัฒนาตัวเอง เตรียมพร้อมสำหรับชีวิตข้างหน้า

By อ.บอม GenEd.